Vision Techs Lifestyle อัตราค่าขนส่ง มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้

อัตราค่าขนส่ง มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้

อัตราค่าขนส่ง มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้ post thumbnail image

ทุกวันนี้การแข่งขันทางเศรษฐกิจยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อเทียบกับในอดีต ประเทศใดมีเทคโนโลยีก้าวหน้า ก็ย่อมมีความได้เปรียบกว่าประเทศที่เทคโนโลยีด้อยกว่า เศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการค้าขายของประชาชน ปัจจุบันมีการขายออนไลน์เกิดขึ้น และย่อมต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ บทความนี้จะมาพาให้รู้จักว่ามีอะไรบ้างที่ควรรู้เกี่ยวกับอัตราค่าขนส่งซึ่งคิดทุกครั้งเวลามีการซื้อขายออนไลน์

อัตราค่าขนส่ง แบ่งได้เป็นกี่ประเภท

การขนส่งคือการย้ายสินค้า คน สัตว์ และสิ่งของ จากสถานที่แห่งหนึ่งไปอีกที่หนึ่งซึ่งมีการกำหนดระยะทางและอัตราค่าขนส่งเรียบร้อยแล้ว บริษัทส่งสินค้าแต่ละแห่งจะใช้ความเร็วและเวลาการจัดส่งต่างกัน หากเป็นการส่งเร่งด่วน ของก็จะถึงที่หมายปลายทางภายใน 2-3 วันเท่านั้น แต่หากส่งปกติจะใช้เวลามากกว่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลว่าสินค้าส่งช้า เพราะไม่ถึงอาทิตย์ สินค้ามาถึงมือผู้รับอย่างแน่นอน ประเภทค่าส่งสินค้า แบ่งออกได้ 4 แบบ ได้แก่

  • อัตราค่าขนส่งระบบกลุ่ม คือค่าส่งที่นำจุดต้นทางกับหลายทางจำนวนหลายจุดมารวมกันแล้วคิดคำนวณออกมา
  • อัตราค่าขนส่งระบบระยะจริง คือการคิดตามระยะทางจริงที่ใช้เดินทางเพื่อส่งสินค้ายังจุดหมาย
  • อัตราค่าขนส่งระบบแปรผัน คือการคิดค่าส่งลดลงหากระยะทางเพิ่มขึ้น
  • อัตราค่าขนส่งระบบอัตราเดียว คือการคิดค่าส่งแบบเดียวทั้งหมดโดยไม่คำนึงว่าระยะทางนั้นจะไกลหรือใกล้

ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่ออัตราค่าขนส่ง

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราค่าขนส่ง จะมีอยู่ 2 ข้อ สามารถกล่าวได้ดังต่อไปนี้

  • ต้นทุนการขนส่งและการผลิต

หากรู้ว่าต้นทุนทั้งหมดเป็นเท่าไหร่ ก็นำมาใช้กำหนดค่าขนส่ง แต่ต้องบวกกำไรที่ตนคิดว่าได้รับรวมเข้ากับต้นทุน แต่ค่าขนส่งของทางหน่วยงานจะกำหนดเอาไว้แน่นอน ผู้ประกอบการไม่สามารถเก็บเกินกำหนด เนื่องจากภาครัฐได้มาของเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าขนส่ง นักธุรกิจหรือผู้ใช้บริการต้องยึดหลักนั้น

  • อุปสงค์กับอุปทานการส่งสินค้า

การเปลี่ยนแปลงของอัตราค่าส่งจะอยู่ในทิศตรงข้ามกับอุปทานที่เปลี่ยนแปลงไป แต่เปลี่ยนในทิศเดียวกับอุปสงค์ กล่าวคือ อุปสงค์และการขนส่งเป็นไปในทางเดียวกัน แต่ตรงข้ามกับอุปทานนั่นเอง

จากบทความก็ทำให้เหล่าผู้อ่านทุกท่านได้รู้ว่าประเภทของอัตราค่าขนส่งมีอะไรบ้าง แต่ละรูปแบบของการส่งจะมีลักษณะและจุดเด่นไม่เหมือนกัน สำหรับประเทศไทยมักใช้อัตราค่าส่งระบบแปรผันเนื่องจากเหมาะกับเศรษฐกิจมากสุด รวมถึงปัจจัยที่มีผลกับราคาค่าส่ง สำหรับคนที่เป็นแม่ค้าออนไลน์ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการกำหนดราคาค่าส่งให้กับลูกค้าของตนเอง

Related Post

เครื่องกำจัดความชื้น กับ เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร เหมือนกันไหม เครื่องกำจัดความชื้น กับ เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร เหมือนกันไหม 

สืบเนื่องจากปัจจุบันปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลับมาระบาดอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้หลายๆ คนหนักใจโดยเฉพาะคนที่อยู่ทางภาคเหนือมีค่าฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดมาตรฐานและต้องระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัญหาฝุ่นละอองหรือมลภาวะทางอากาศทำให้เครื่องกำจัดความชื้นหรือเครื่องลดความชื้นและเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ขายดี เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้โดยตรง   ว่าแต่เครื่องกำจัดความชื้นหรือเครื่องลดความชื้นและเครื่องฟอกอากาศนั้นแตกต่างกันอย่างไร มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไรเราจะพาทุกคนมาหาคำตอบ  เครื่องกำจัดความชื้น เครื่องกำจัดความชื้นอุปกรณ์นี้มีไว้เพื่อกำจัดความชื้นส่วนเกินในอากาศช่วยลดความชื้นภายในห้องและช่วยกำจัดสารที่ก่อภูมิแพ้ กำจัดไรฝุ่น กำจัดเชื้อราต่างๆ เครื่องกำจัดความชื้นหรือเครื่องลดความชื้นนิยมใช้กับสภาพอากาศที่มีความชื้นมากกว่า 50% ขึ้นไป ช่วยบรรเทาอาการแพ้ กำจัดเชื้อรา ไรฝุ่น ป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี  เครื่องฟอกอากาศ  เครื่องฟอกอากาศจะมีอากาศที่หมุนเวียนผ่านตัวกรอง ช่วยกำจัดมลพิษที่เป็นพาหะในอากาศ อย่างเช่น อนุภาคควัน อนุภาคของฝุ่นละอองหรือแม้แต่ละอองเรณู

ใช้งานเครนอย่างไรให้ปลอดภัย อบรมเครน ช่วยลดอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยงได้  ใช้งานเครนอย่างไรให้ปลอดภัย อบรมเครน ช่วยลดอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยงได้  

เครนหรือปั้นจั่น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ เครนชนิดอยู่กับที่และเครนชนิดเคลื่อนที่ เครนเป็นเครื่องจักรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงงานก่อสร้างต่างๆ แม้แต่การทำความสะอาดอาคารสูง ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่างๆ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งเกิดโดยที่ไม่คาดฝัน ผู้ที่ทำงานกับเครนสิ่งสำคัญจะต้องรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาณมือ คนขับเครนและคนให้สัญญาณจะต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนั้นการอบรมเครนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  เคล็ดลับการทำงานกับเครนให้ปลอดภัย  1.เครงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเท่านั้น  เครนหรือปั้นจั่นจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเท่านั้น โดยเฉพาะเครนที่ต้องใช้งานหนักมักจะมีส่วนที่เสื่อมสภาพหรือสึกหรอดังนั้น จะต้องบำรุงรักษาดูแลหรือซ่อมแซมอยู่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้เครนอยู่ในสภาพที่แย่ไปกว่าเดิม ควรเช็คสภาพรถเครนก่อนนำมาใช้ 2.ตรวจสอบส่วนประกอบโดยละเอียด  ไม่ใช่แค่การตรวจเช็คโครงสร้างในภาพรวมแต่ต้องตรวจสอบส่วนประกอบต่างๆ ของเครนโดยละเอียด หากส่วนประกอบเหล่านั้นเกิดการชำรุดเสียหายหรืออยู่ในสภาพไม่ดี ควรรีบแก้ไขไม่ควรนำมาใช้งาน  3.สภาพพื้นที่ในการทำงาน  ตรวจสอบสภาพพื้นที่ในการทำงานว่าเป็นอุปสรรคหรือไม่อาจนำมาสู่อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนนำเครนมาใช้ในสภาพพื้นที่ใดก็ตาม ควรตรวจสอบให้ดีและปรับปรุงให้สภาพพื้นที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น